Hanoi ฮาหน่อย ต้องไปเอง ภาค๒


หลังจากที่ลุยกันไปในภาคแรก วันแรก คราวนี้สองวันสุดท้ายจะ โดนอะไรบ้างก็ตามกันมาครับ
  
25 July 2017
เช้าวันใหม่สดใส แต่ไม่สดชื่นเพราะน้ำในห้องไม่ไหล เอาแล้วไง ทริปนี้สนุกทุกวัน ทางโรงแรมเลยต้องเปิดห้องให้เราเข้าไปอาบน้ำก่อนในระหว่างที่ช่างกำลังแก้ไข  อะไรคือน้ำไม่ไหลอยู่ห้องเดียว😱  ดีนะที่อาหารเช้าของโรงแรมอร่อย กินได้ไม่จำกัด เลยไม่โมโหเท่าไหร่



อาบน้ำเรียบร้อย หลังจากพลาด ฮา ลอง เบย์ เราเลยจะไปที่ Ho Chi Minh Mausolium แทน รอบๆนั้นยังมีที่เที่ยวอีกสอง สามที่ ไปจุดเดียวเดินคุ้ม  ขอให้ทางโรงแรมจัดการเรียกแท็คซี่ให้เลยครับวันนี้ ไม่เดินละ














ใกล้เที่ยงเริ่มหิวข้าวเลยตกลงจะไปกินข้าวในห้างและเดินดูบรรยากาศในห้างบ้าง เพื่อนผมมันอยากไปดูโรงหนังที่ฮานอยด้วย เป็นสาวกเก็บใบปิดหนัง เลยแวะให้เขาหน่อย ก่อนออกจากโรงแรมถามชื่อห้างที่มีโรงหนังมาเรียบร้อย ชื่อ Vincom Tower






เดินอยู่ให้ห้างพักใหญ่บ่ายกว่าๆ  ฟ้าด้านนอกเริ่มมืด ดูท่าทางพายุกำลังจะเข้า เลยตัดสินใจกลับไปตั้งหลักกันที่โรงแรมก่อน รอพายุสงบ แล้วค่อยออก เพราะโปรแกรมเย็นนี้คือ ไปดูการแสดง หุ่นกระบอกน้ำ อันเลืองชื่อของ ฮานอย


ผ่านไปสอง สามชั่วโมง หลังพายุฝนกระหน่ำ ฮานอย แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ ก็ได้เวลาออกไปโรงละครหุ่นกระบอกน้ำ ที่หาไม่เจอในวันแรก แต่ผมพอจะเดาได้ว่าอยู่บริเวณไหน ใช้เวลาเดินไม่นานก็เจอ แถมพวกเรามาพอดีกับการแสดงในรอบแรก ไม่รอช้า ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปรอดู




ด้านในคนเต็มโรงละคร มองไปรอบๆ ฝรั่งล้วนๆ ไม่ปนเงาะกับทุเรียนเลย😝 น่าจะมีเราที่เป็นคนไทยอยู่ในนั้นแค่สามคน ตั้งแต่มา ฮานอย ยังไม่เจอคนไทยเลย

ไฟดับลงการเเสดงเริ่ม เสียงดนตรีบรรเลง เสียงคุยเงียบลง แต่แสงแฟลชกล้อง แสงไฟจากมือถือรอบๆตัว เริ่มทำงาน



ดื่มด่ำกับการแสดงที่ต้องเอาตาดูและใช้ใจสัมผัส เพราะฟังไม่รู้เรื่องเลยตลอดการแสดง ประทับใจครับถึงจะฟังไม่ออกแต่ก็ดูสนุก  ถ้าไปฮานอยแล้วไม่ได้ดู การแสดงหุ่นกระบอกน้ำ ผมว่าพลาดอย่างร้ายแรง เหมือนกับอย่างที่สองที่ผมกำลังจะพาไปชิมนี่แหละครับ มาแล้วไม่ได้กินเจ้าสิ่งนี้ ถือว่า มาไม่ถึง ฮานอย

นั้นคือ เมนูที่มีชื่อว่า บุ๋นจ๋า (Bun Cha) ที่ร้าน Dac Kim ร้านนี้พวกผมเดินผ่านทุกวัน และมีเพื่อนชาวเวียดนามแนะนำให้ไปลองชิม



เจ้าเมนู บุ๋นจ๋า เนี่ยตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่มีภาพในสมอง เวลาสั่งยังงงเลย เพราะต้องสั่งมากินกันคนละชุด จะสั่งมาชุดเดียวแล้วแบ่งกันกินไม่ได้(เสียงสูงมากตรงคำว่า "ได้") เพราะอะไรเหรอครับ ดูภาพประกอบด้านล่าง


ในหนึ่งชุดของ บุ๋นจ๋า ก็จะมี หมูสับที่คล้ายๆแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นพอคำ(ของผม) แล้วนำไปย่าง ประมาณหลายชิ้นอยู่ ใส่ในชามที่มีน้ำซุป  มีน้ำซุปให้อีกหนึ่งชาม ปอเปี๊ยทอดชิ้นโตๆอีกหนึ่งชิ้น ขนมจีนพูนๆจานอีกหนึ่งจาน(กะด้วยสายตา น่าจะครึ่งโลกว่า) และชุดผักแนมให้อีกหนึ่งจานพูนๆ

พอทุกอย่างมาวางตรงหน้า พวกผมนี่งงเลยว่าจะต้องกินมันยังไง ไม่รู้จะต้องกินอันไหนก่อน หน้าตามันอาจจะดูแปลก แต่รับรองว่ารสชาติใช้ได้เลย เรียกว่าอร่อยเลยทีเดียว

เมื่อทุกอย่างมาว่าตรงหน้า ก็ต้องจัดการอย่าให้เหลือเดี๋ยวเสียชื่อคนไทยหมด ซัดให้เรียบ


จัดการกับ บุ๋นจ๋า จนหมดแรงจะเขมือบอย่างอื่นแล้ว ก็ได้เวลาเดินย่อยซักชั่วโมง(จริงๆแล้วหลงอะ😂)
จนมี วลีเด็ดที่ เพื่อนผมชอบพูดว่า "ก้าวขาออกจากโรงแรมก็หลงทุกวัน" อย่างที่บอกมันเป็นสกิลเฉพาะตัว

คืนสุดท้ายเราตกลงกันว่าจะไม่ไปที่ถนนโลกี (Ta Hien Street) แต่จะซื้อเบียร์เข้าไปกินที่ห้องแทน ก็จัดกันไปชุดใหญ่ เล่นได้ว่าต้องเดินลงมาซื้อกันถึงสองรอบ จนจะสนิทกับเจ้าของร้านของชำกันเลย เพราะเมื่อวานก็ซื้อ


26 July 2017
เช้าสุดท้ายที่ฮานอย ตารางบินของพวกผมคือตอน สองทุ่มกว่า เราเลยมีเวลาทั้งวันที่จะเที่ยวต่อ แล้วก็ถือโอกาส จองรถจากทางโรงแรงให้ไปส่งเราที่สนามบินด้วย เพราะคาดว่าจะหมดแรงกระเตงกระเป๋าขึ้นรถเมล์ไปที่สนามบินแน่ๆ(ชัดๆเลยต้องมีหลงอีก) ค่ารถจากโรงแรม 15 USD.

หลังจากเคลียร์ค่าเสียหายกับทางโรงแรมแล้วเราก็ไปที่ วัดเฉินก๊วก ( Pagoda Tran Quoc ) เข้าวัดก็ยังไม่วายจะโดนหลอกอีกหนึ่งดอก คราวนี้มาในรูป ให้กรอกแบบสอบถาม กรอกไปกรอกมามันกลายเป็นขอรับบริจาคเงินเฉยเลย (คราวนี้ไม่เสียตังครับ ไม่ให้😆)








ออกจากวัดเฉินก๊วก ก็มุ่งหน้าไป  ฮานอย โอเปร่าเฮาส์ (Hanoi Opera House) อะๆ ไม่ได้ไปดูโอเปร่านะเพราะเข้ามีรอบในตอนเย็น แค่ไปดูรอบๆและก็จะเลยไปพิพิธภัณฑ์ Vietnam National Museum of History ที่อยู่ใกล้ๆกับโรงโอเปร่า แต่ก็ดันปิด เพราะใกล้จะเที่ยงแล้วอีก ออกมากันสายด้วย
หาข้าวเที่ยวกินกันก่อนแล้วกลับโรงแรมขึ้นรถไปสนามบินจะดีกว่า



ไปถึงสนามบินนานาชาติโหน่ยบ่ายเกือบหกโมงเย็น รอเช็คอิน ขึ้นเครื่องกลับไทย เป็นอันจบทริป Hanoi ฮาหน่อย ต้องไปเอง ไว้เจอกันทริปหน้า ว่าจะยังฮากันได้อีกมั้ย และดูว่าจะมีใครไปร่วมหลงกับผมอีก😚

ในระหว่างเดินทางผมเริ่มคิดว่าเสน่ห์ของฮานอย หรือที่ไหนก็ตาม จริงๆแล้วมันมีหลายอย่างมารวมกัน แต่ที่ผมสัมผัสได้ คือวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่นมันเป็นเสน่ห์ ดึงดูดให้เรามาสัมผัส นอกจากสถานที่ท่องเที่ยว วัด โบสถ์ พิพิธภัณฑ์


สิ่งเหล่านี้ล้วนประกอบกันเป็นเสน่ห์ให้เรามาค้นหา บางคนบอกว่าไปที่โน่น ที่นั่น ก็เหมือนๆกันไปหมด ไม่มีอะไรแตกต่างกัน ไม่น่าสนใจ จริงๆแล้วเป็นที่ตัวคุณเองนั่นแหล่ะที่ไม่สังเกตุมันดีๆ ลองหยุดแล้วสังเกตุสิ่งรอบๆตัว บางทีคุณอาจจะเจอสิ่งที่ตามหาก็ได้ครับ ลองมองต่างมุมดู



Hanoi Vietnam Trip 24-26 July 2017

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Mockba คนเดียว ก็เที่ยวได้

นั่งรถไฟไปเมืองลิง