นั่งรถไกล...ไป St.Petersburg


...เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งรถไฟ แบบตู้นอนจริงๆในต่างประเทศ(ในประเทศไทยผมก็ยังไม่เคยนั่งรถไฟไกลๆเลย  ไกลสุดก็บางซื่อ-ดอนเมือง) แต่เป็นครั้งที่สองที่ผมได้นั่งรถไฟข้ามเมือง เดี๋ยวครั้งเรก ค่อยเล่าอีกที


คราวนี้ผมนั่งจากมอสโก → เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเลย หลังจากที่ทำการจองตั๋วรถไฟทางมือถือ
อย่างยากลำบาก( 😰ไม่ได้จองไปจากเมืองไทยด้วยเป็นคนวางแผนดีมาก) พอจองเสร็จ

งานเข้าเลยครับที่นี้ คือจะปริ้นตั๋วยังไง 😱!!! เอาไง ทำไงดี ด้วยความที่ผมไปผูกมิตรกับคนดูเเลที่พักไว้แล้ว(คงไม่ค่อยมีคนไทยไปพักด้วยมั้ง) เลยไปขอความช่วยเหลือพร้อมถามทางด้วยว่าจะไปขึ้นรถไฟที่ไหน ไปยังไง.. แล้วก็ได้ตั๋วมาจนได้


รู้วัน เวลาที่แน่นอน ก็ส่งข้อความไปหาเพื่อนที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก(กันไว้ก่อนเผื่อหลง ซึ่งมีแนวโน้มสูง 555) แต่ก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะได้เจอเพื่อนรึป่าว ลุ้นเอาตอนไปถึง

ได้เวลานัดกินข้าวกับเพื่อนก่อนที่จะไปส่งผมขึ้นรถไฟ ตอนเจอกันเพื่อนส่งเสื้อโอเวอร์โค้ทตัวใหญ่ กันลมกันหนาวให้หนึ่งตัว บอกว่าที่โน้นอากาศเย็น เสื้อยูเอาไม่อยู่หรอก น้ำตาจะไหล ใจดีแท้ 😂 (ไหนใครพูดว่าโหดสั.. รัสเซีย ไม่เชื่อละ)


เพื่อนผมเลือกร้านอาหารกึ่งร้านเหล้าที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟที่ผมต้องไปขึ้น เราจะได้ไม่ต้องรีบกิน พอมีเวลานั่งคุยกันด้วย







หลังจากดื่มกินอาหารกันอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาต้องขึ้นรถไฟ พวกเราก็ออกเดินย่อยเพื่อไปที่สถานีรถนอนของผม แล้วพวกเราก็เดินมาถึงจุดหมายปลายทาง สถานีรถนอนที่จะพาผมไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก




หลักจากลาเพื่อนเรียบร้อย ก็ขึ้นไปบนขบวนรถนอน บาย..บาย Mockba
ครั้งแรกที่เห็นรถไฟตู้นอน โห....สุดยอด



ก้าวขึ้นรถไฟหาห้องที่จองไว้พอเปิดเข้าไป ในหนึ่งห้องมีสี่เตียงขนานกัน ล้างสอง บนสอง ตรงกลางเป็นทางเดิน ดูสะบายและน่านอน มีที่ชาร์จแบตโทรศัพท์พร้อม สั่งอาหาร และซื้อของที่ระลึกได้ด้วย




ได้เวลารถไฟออกเดินทาง โบกมือลาเพื่อนที่มายืนรอส่ง จนรถไฟออกจากชานชาลา แล้วก็กลับเข้ามาให้ห้อง เที่ยวนี้ห้องทั้งห้องเป็นของผมไม่มีผู้โดยสารรายอื่นจองในห้องนี้เลย สะบายละครับ ราตรีสวัสมอสโก เจอกันเช้าที่ เซนต์ปีเตอร์ละกัน...

หลังจากนอนหลับๆตื่นๆอยู่ 6-7 ชั่วโมงก็มีเสียงหญิงสาวชาวรัสเซียมาเคาะที่ประตูห้อง แล้วพูดอะไรที่ผมฟังไม่เข้าใจ แต่พอจะเดาได้ว่า ''ตื่นได้เเล้วคะผู้โดยสารตอนนี้เราถึง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแล้วเตรียมตัวลงได้ ตรวจสอบสำภาระให้เรียบร้อยก่อนลงจากรถไฟนะคะ'' (เหมือนกินวุ้นแปลภาษาของโดเรม่อนเข้าไปเลยทีเดียว)

ผมก็จัดแจงเข้าห้องน้ำล้างหน้าทำธุระ ส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนรถไฟจะเทียบชานชาลา แล้วก็แบกเป้เดินลงจากรถไฟ พอประตูรถไฟเปิดผมก็เจอกับเพื่อนที่เซนต์ปีเตอร์มายืนรอที่ประตูรถไฟ แต่เช้าตรู่ ฟ้ายังไม่สว่างเลย(ผมนี่ตกใจเลยครับไม่คิดว่าเพื่อนจะว่างมารับ) ลงรถไฟมาเพื่อนผมก็พาไปหาอะไรกินรองท้องก่อน นอนมาทั้งคืนเริ่มหิว ขอเเวะเเม็ค เติมพลังแป๊บ


อิ่มนิดๆก็ได้เวลาเดินชมเมืองแล้ว มีเวลาวันเดียว เดี๋ยวต้องนั่งรถไฟกลับไปมอสโกอีก ต้องใช้ให้คุ้ม
ว่าแล้วก็ไปกันเลย เดินชมเมืองยามเช้าวันอาทิตย์

รอบข้างไรผู้คน เดินกินลมชมวิว บ้านเมือง ผมว่ามันก็ได้อรรถรสไปอีกแบบ เหมือนเมืองทั้งเมืองเป็นของเรา เดินกลางถนน ก็ได้ ไม่ต้องกลัวรถวิ่งมาชน ชอบมากฟิวนี้ เมืองโล่งดี(เฉพาะตอนเช้า 555 พอสายๆผู้คนก็เริ่มออกมาเดิน)












วันนี้อากาศดี เช้ามีฝนปรอยๆ สายๆก็มีแดดนิดหน่อยไม่ร้อนมากเหมาะแก่การเดินชมเมือง



เดินดูรอบๆเเล้วก็ได้เวลาขึ้นไปดูวิวมุมสูงของเมืองกันบ้าง เพื่อนก็รีบจัดให้ พร้อมบอกว่าขึ้นมาครั้งแรกเหมือนกัน !!! อ้าวคนเมืองนี้รึป่าวเนี่ยเพื่อนผม 😂(นึกในใจ)






เริ่มงงๆใครพาใครเที่ยว แถมต้องถ่ายรูปให้อีก 😅

ข้างบนยอดโดมวิวสวยจริงๆ มองเห็นรอบๆเมืองเลย แต่อย่างที่บอกวันนี้มีฝนตอนเช้าฟ้าเลยมัวๆ ไปนิด เดินวนไปสองรอบ ก็ลงข้างล่างดีกว่า ชมเมืองต่อ







โดมอันนี้เเหละครับที่เราขึ้นไปดูวิว


ได้เวลาที่จะต้องลากันสำหรับเมืองนี้ ด้วยความใจดีของเพื่อนที่เจอกันครั้งแรก พาเที่ยวรอบเมือง อย่างที่พูดไว้ในครั้งที่แล้วว่า คนที่นี่ใจดีจริงๆครับ...

แต่ก็ไม่ใช้ทุกคนนะครับมันเป็นประสบการณ์ส่วนตัว ยังไงมาเที่ยวคนเดียวก็ยังต้องระวังตัวไวอยู่ดี หลังจากลาเพื่อนกลุ่มนี้แล้ว ผมก็ยังมีนัดกับเพื่อนอีกคนที่เมืองนี้ ยังพอมีเวลาก่อนรถไฟจะออก



เจอมาเฟียเข้าแล้ว 5555 เพื่อนผมคนนี้ขี้เล่น ใช้เวลาคุยกันซักพัก ก็ได้เวลารถไฟจะออก ผมต้องรีบกลับมาขึ้นม้าเหล็กเพื่อกลับ มอสโคว์ แต่แน่นอนว่าคราวหน้าถ้ามีโอกาศ จะต้องอยู่เมืองนี้ให้นานกว่านี้แน่ๆ เพราะยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ ที่ยังไม่ได้ไป และมาเฟียจะพาเที่ยวในครั้งหน้าครับ

....พอขึ้นมาบนตู้นอนคราวนี้ไม่ได้มีแต่ผมในห้องซะแล้ว ขากลับผมมีเพื่อนร่วมห้องอีก 3 คน หลังจากทักทายกันแล้วก็ประจำเตียงใครเตียงมัน ปิดไฟนอน(เพราะขืนคุยกันไปก็คุยไม่รู้เรื่อง) สรุปนอนดีกว่าและผมก็เหนื่อยกับการเที่ยวทั้งวันด้วย เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกที ก็มีเสียงสาวๆมาเคาะประตู ซึ่งผมพอเดาได้ว่าคงมาปลุกเพราะใกล้จะถึงมอสโคว์แล้วให้เตรียมตัวเก็บของ

แต่ประเด่นมันอยู่ตรงที่ว่า ผมงั่วเงียตื่นเพราะเสียงเคาะ แล้วเพื่อนเตียงตรงกันข้ามกับผมก็ตื่นเช่นกัน เเล้วหันมาพูดกับผมเป็นภาษาอะไรซักอย่าง(ที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง) พอพูดจบ ต่างคนต่างพยักหน้าใส่กันแล้วหันกลับไปนอนต่อ มาคิดดูอีกทีคงจะพูดประมาณว่าถึงแล้วใช่มั้ย 5555 ขำตัวเองที่พยักหน้าตอบ
แล้วทริป 1 วันก็จบลงผมเดินทางกลับมาที่มอสโคว์อย่างปลอดภัย


นั่งรถไฟกลับห้อง กลับไปนอนต่ออีกซักงีบน่าจะดี แล้วค่อยลุกขึ้นมาเตรียมตัวจัดกระเป๋ากลับไทย
แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนดีกว่าบรรยากาศเป็นใจให้หลับมาก ราตรีสวัสครับ


...ปล. สำหรับผมการเดินทางมันเป็นประสบการณ์ที่มีค่าไม่สำคัญว่าเป็นที่ไหน เพียงแต่เราเก็บเกี่ยวและได้อะไรจากการเดินทางมากกว่า ส่วนผมได้มิตรภาพ และ ความทรงจำทีดีติดตัวกลับมา และมันทำให้เราอยากที่จะออกไปเดินทางอยู่เสมอ นอนหลับฝันดีครับนักเดินทาง

Russia Trip 14 - 21 Oct 2015

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Mockba คนเดียว ก็เที่ยวได้

Hanoi ฮาหน่อย ต้องไปเอง ภาค๒

นั่งรถไฟไปเมืองลิง